พายุไซโคลนยาซี พัดเข้าชายฝั่งออสเตรเลียแล้ว
พายุไซโคลนยาซี พัดเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียแล้ว ขณะที่ทางการเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่
พายุไซโคลนยาซี ซึ่งมีแรงลมใกล้ศูนย์กลางกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดเข้าสู่ชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ กว่า 400,000 คน ตลอดความยาวของแนวชายฝั่ง 370 ไมล์ รวมทั้งในเมืองแคร์นส์, ทาวน์สวิลล์ เมื่อวันพฤหัสบดี (3 กุมภาพันธ์) ตามเวลาท้องถิ่นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางการได้มีการอพยพประชาชนนับหมื่นคน ไปหลบอยู่ในสถานที่พักฉุกเฉิน ก่อนที่พายุไซโคลนยาซีจะพัดถล่ม ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนว่า พายุไซโคลนยาซี อาจมีทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย
นอกจากนี้ เที่ยวบินจำนวนมาก ได้ขนย้ายนักท่องเที่ยวและผู้คนออกจากเมืองแคร์นส์, ทาวน์สวิลล์หนีพายุดังกล่าว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันพุธ ก่อนสนามบินทั้งหมดจะถูกปิด
ขณะที่ แอนนา บลายห์ นายกรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวเตือนให้ประชาชนเตรียมใจรับความเสียหายที่ต้องเผชิญ "เราอาจต้องหัวใจสลายและเผชิญกับสภาพการทำลายล้างในระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย ประเทศของเราไม่เคยรับมือกับสิ่งใดที่เหมือนกับไซโคลนลูกนี้มาก่อน"
สำหรับ พายุไซโคลนยาซี คาดจะมีความรุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในประวัติศาสตร์ เทียบเท่าเฮอริเคนแคทรีนา และพายุไซโคลนยาซีลูกนี้เป็นภัยธรรมชาติล่าสุดที่ซ้ำเติมรัฐควีนส์แลนด์ ที่เพิ่งประสบอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ หลังจากพายุโซนร้อนหลายลูกทำให้ฝนตกหนักนับแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน คาดว่าเส้นทางที่มันเคลื่อนผ่านจะกระทบต่อประชาชนมากกว่า 400,000 คนตั้งแต่ในเมืองแคร์นส์, ทาวน์สวิลล์ และแม็กเคย์ เมืองริมชายฝั่งเหล่านี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของพวกแบกเป้เที่ยว และนักดำน้ำดูปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ
ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นขนาดของพายุที่ครอบคลุมบริเวณกว้างใหญ่กว่าอิตาลี หรือนิวซีแลนด์ บลายห์กล่าวว่าอันตรายที่สุดของมันคือคลื่นยักษ์ซัดฝั่ง ที่พยากรณ์อากาศทำนายว่าอาจสูงถึง 7 เมตรจากระดับคลื่นสูงปกติ เครือข่ายโทรศัพท์ในพื้นที่อาจใช้การไม่ได้และประชาชนราว 150,000-200,000 คนอาจไม่มีไฟฟ้าใช้ เหมืองแร่, รถไฟ และท่าเรือขนถ่านหินปิดทำการทั้งหมดแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่เตือนว่าพายุอาจเคลื่อนสู่ดินแดนชั้นในนับพันกิโลเมตร ทำให้เขตชนบทและเขตทำเหมืองที่เคยประสบน้ำท่วมหลายเดือนอยู่ในความเสี่ยง
ที่มา
http://hilight.kapook.com/view/55828
ข้อมูลในบล็อกนี้ ได้รวบรวมมาจากที่ต่างๆ เท่านั้น ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ กรุณาอ่านอย่างมีวิจารณญาณ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
คำทำนายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อท่านบอกว่า อ่านพบคำทำนายนี้อยู่ในสมุดข่อยที่พระอรหันต์ในอดีตนามว่า "พระพุทธโฆษาจารย์ (ลำใย) เขียนทำนาย...
-
เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru แห่งญี่ปุ่นสื่อสารกับมนุษย ์ต่างดาวได้ ทรงเตือนภัยปี ค.ศ.2012 : นำมาให้ชมกัน โปรดใช้วิจารญาณในการรับชมน ะครับ ไม่...
-
หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ - พุทธพยากรณ์โลก ลองตั้งใจฟังดูดีๆนะครับแล้วลองพิจารณาดูแล้ว เทียบกับสถานการ์ณที่กำลังเกิดอยู่ในปัจจุบันนี้ และไว้ดูเป็น...
-
ดาวบีเทลจุส (Betelgeuse) เป็นข่าวฮือฮาออกมาว่า โลกของเราใกล้อวสานเข้าไปอีกครั้ง เมื่อดาวบีเทลจุส (Betelgeuse)กำลังจะระเบิด แต่มันมีผลอย่า...
-
การทำนายวันสิ้นโลกของศาสนาอิสลาม วาระแห่งการบังเกิดขึ้นของวันกิยามะฮฺไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้ได้นอกจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา...
-
พิบัติทำนายฉบับลาว คงจำกันได้ ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาข่าวภัยพิบัติธรรมชาติจากอุตรดิตถ์ ไปจนถึงยอร์คจาร์การ์ตา อินโดนีเซีย ทำลายท...
-
วัฏจักร และ จุดจบของโลก ในทรรศนะของพระพุทธศาสนา ขอตั้งสมมติฐานว่า “จุดจบของโลกอยู่ที่ ๖๐๐๐ ล้านปี และ จุดจบของโลก กับ จุดจบของสัตว์ที่มีวิญญ...
-
มหาภัยพิบัติ 2012 มาจริง เกิดจริง...21-12-2012 ...วันหายนะของมนุษยชาติ...!!!!!!! ผู้ที่เปิดเผยและน่าเชื่อถือที่ล้วนกล่าวถึงมหาภัยพิบัติว่...
-
คำทำนายอวสานโลก ฮือฮาไม่ใช่เล่น เมื่อมีการเปิดปูมจดหมายของ เซอร์ ไอแซค นิวตัน บิดาแห่งฟิสิกส์และดาราศาสตร์ยุคใหม่ ที่ทำนายว่าโลกจะถึงกาลอ...
-
พุทธทำนายล้านนาประเทศ จากคัมภีร์ใบลานเรื่อง "หมากน้ำเต้าจมหมากหินฟู" ของวัดป่าสักน้อย ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงให...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น