วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พบ 2 “หลุมดำยักษ์” มวลมากกว่าดวงอาทิตย์หมื่นล้านเท่า

พบ 2 “หลุมดำยักษ์” มวลมากกว่าดวงอาทิตย์หมื่นล้านเท่า

นักวิทยาศาสตร์พบ 2 หลุมดำใหญ่ยักษ์สุดเท่าที่เคยพบ มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์เราถึง 10,000 ล้านเท่า อยู่ไกลออกไป 300 ล้านปีแสง จุดคำถามขึ้นว่าหลุมดำเหล่านั้นโตขึ้นมาได้อย่างไร

ทั้งนี้ ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในเบิร์กเลย์ (University of California, Berkeley) สหรัฐฯ ได้ค้นพบ2 หลุมดำขนาดยักษ์ ซึ่งเอพีรายงานว่าแต่ละหลุมดำนั้นมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์เท่า 10,000 ล้านเท่า โดยอยู่กาแลกซีวงรีที่ห่างจากโลกไป 300 ล้านปีแสง โดยหลุมดำที่ติดอันดับใหญ่สุดก่อนหน้านี้ใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ 6 พันล้านเท่า

“พวกมันเป็นปีศาจชัดๆ เราไม่คาดว่าจะได้เจอหลุมดำใหญ่ขนาดนี้ เพราะพวกมันมีขนาดใหญ่มากกว่าที่จะชี้วัดได้ด้วยคุณสมบัติของกาแลกซีที่พวกมันอยู่ มันเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาจริงๆ” หม่า จงเผ่ย (Chung-Pei Ma) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากเบิร์กเลย์กล่าว

สำหรับงานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ลงวารสารเนเจอร์ (Nature) นี้ นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า หลุมดำเหล่านี้อาจเหลือจากควอซาร์ (quasar) ที่แออัดในยุคต้นๆ ของเอกภพ โดยมีมวลคล้ายกับควอซาร์อายุน้อยและถูกซ่อนไว้อย่างดีมาจนถึงทุกวันนี้

สำหรับการค้นพบล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ทั้งกล้องโทรทรรศน์บนโลกและกล้องโทรทรรศน์ในอวกาศอย่างฮับเบิล (Hubble) รวมถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อสังเกตดวงดาวที่อยู่ใกล้ๆ หลุมดำ และวัดความของดาวเพื่อหาหลุมดำขนาดใหญ่นี้ ซึ่งอยู่ในบริเวณที่มองไม่เห็น

ทั้งนี้ หลุมดำเป็นวัตถุที่หนาแน่นมากจนไม่มีสิ่งใดแม้กระทั่งแสงที่สามารถหนีออกมาได้ ซึ่งบางหลุมดำเกิดจากการยุบตัวของดาวขนาดใหญ่ แต่ นิโคลัส แมคคอนเนลล์ (Nicholas McConnell) นักศึกษาเบิร์กเลย์ซึ่งศึกษาเรื่องนี้ระบุว่า ยังไม่แน่ชัดนักว่าหลุมดำยักษ์นี้เกิดขึ้นมาอย่างไร และการมีขนาดใหญ่อย่างนี้หลุมดำทั้งสองต้องโตขึ้นมากนับแต่ก่อเกิดขึ้นมา

เชื่อว่ากาแลกซีส่วนใหญ่มีหลุมดำอยู่ที่ใจกลาง ยิ่งกาแลกซีใหญ่มากหลุมดำก็ยิ่งใหญ่ขึ้นไปด้วย ส่วนควอซาร์นั้นเป็นใจกลางกาแลกซีที่ทรงพลังมหาศาลและอยู่ไกลโพ้น ซึ่งนักวิจัยระบุว่าการค้นพบของพวกเขานั้นชี้ว่ามีหลายวิธีที่หลุมดำจะเติบโตขึ้น โดยขึ้นอยู่กับขนาดของกาแลกซี

ด้าน หม่าคาดเดาว่าหลุมดำทั้งสองซ่อนตัวมาได้นาน เพราะตอนนี้หลุมดำเหล่านั้นอยู่ในบั้นปลายของควอซาร์ที่ค่อนข้างสงบ ซึ่งอยู่อย่างเงียบเชียบและนิ่งเฉยมากกว่าเมื่อครั้งอยู่ในควอซาร์อายุน้อยที่อึกทึกและวุ่นวายเมื่อหลายพันล้านปีก่อน โดยฌธอได้เปรียบเทียบการค้นพบหลุมดำขนาดใหญ่นี้ว่าสำหรับนักดาราศาสตร์แล้วก็เหมือนการที่คนสูงกว่า 2 เมตรไปเจอกระดูกไดโนเสาร์เข้าและดูด้อยลงทันตา

“แล้วพวกมันโตขนาดนี้ได้อย่างไร การค้นพบสิ่งที่ไม่เจอได้บ่อยนี้อาจช่วยให้เราเข้าใจได้ว่าพวกมันมีต้นกำเนิดที่ใหญ่อยู่แล้ว หรือกินอะไรเข้าไปจนใหญ่โตได้ขนาดนี้” หม่าให้ความเห็น

ทางด้าน มิเชล แคปเปลลารี (Michele Cappellari) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University) อังกฤษ ซึ่งเขียนความเห็นในวารสารเนเจอร์ เห็นด้วยว่าการค้นพบหลุมดำทั้งสองครั้งนี้อาจแสดงถึงซากที่เหลือของหลุมดำขนาดใหญ่ที่เป็นพลังให้แก่ควอซาร์ที่สว่างสุกใสที่สุดในเอกภพยุคเริ่มต้น

หนึ่งในหลุมดำที่เพิ่งพบนั้นมีมวลหนักกว่าดวงอาทิตย์ 9.7 พันล้านเท่า ส่วนอีกหลุมดำนั้นอยู่ไกลไกลออกไป โดยน่ามีขนาดใหญ่เท่าๆ กันหรืออาจจะใหญ่กว่า และเป็นไปได้ว่าอาจมีหลุมดำขนาดใหญ่กว่าซ่อนอยู่ที่เดียวกันนั้น ซึ่งหม่ากล่าวว่า คำถามว่าหลุมดำสามารถโตขึ้นได้แค่ไหนนั้นมีมูลค่านับล้านเหรียญสหรัฐฯ และตอนนี้นักวิจัยกำลังจับตาดูกาแลกซีที่ใหญ่ที่สุดเพื่อหาคำตอบ


ภาพวาดโดยศิลปินที่แจกจ่ายโดยหอดูดาวเจมินี (Gemini Observatory) ตีพิมพ์ลงเนเจอร์ เผยภาพจำลองหมู่ดาวที่กำลังถูกหลุมดำในใจกลางกาแลกซีดูดกลืน (เอเพี)



ที่มา
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000155362

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คำพยากรณ์ภัยพิบัติ จากเด็กชายปลาบู่

คำพยากรณ์ภัยพิบัติ จากเด็กชายปลาบู่





ดูเหมือนว่าภัยพิบัติ และเหตุการณ์ความวุ่นวายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกตั้งแต่ต้นปี 2011 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น สึนามิที่ญี่ปุ่น กัดดาฟี แผ่นดินไหว การปฏิวัติลิเบีย ฯลฯ ประกอบกับคำพยากรณ์ต่าง ๆ จะยิ่งทำให้ชาวโลกยิ่งเชื่อว่า คำทำนายโลกแตก ในปี 2012 ดูท่าจะเป็นจริงมากขึ้นทุกที

สอดคล้องกับจากคำพยากรณ์ของ "เด็กชายปลาบู่" ที่กำลังฮือฮาในโลกไซเบอร์อยู่ในขณะนี้ เพราะไม่เพียงแต่เด็กชายปลาบู่จะทำนายสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็น่าหวาดกลัวไม่ใช่น้อยเช่นกัน ซึ่งคำพยากรณ์เหล่านี้ เด็กชายปลาบู่ทำนายเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่ เขาเสียชีวิตไปแล้วถึง 37 ปี...ส่วนคำทำนายชวนขนลุกที่ว่านั้นจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ ณ บัดนี้...

นายทองใบ คำสี พ่อของเด็กชายปลาบู่ ได้เป็นสื่อในการบอกเล่าคำพยากรณ์ดังกล่าวให้ฟังว่า... กระผมชื่อนายทองใบ คำสี เกิดวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2481 อายุ 73 ปี เป็นชาวอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี มีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นผู้หญิง 4 คน ผู้ชาย 1 คน ชื่อ "ปลาบู่" ซึ่งได้เสียชีวิตมาแล้ว 37 ปี ตอนเขามีอายุได้ 5 ปี 8 เดือน กับอีก 15 วัน

ก่อนตายบุตรชาย บอกว่า อีก 15 วันหนูจะตายแล้ว หนูอยากคุยกับพ่อ และให้ไปซื้อเทปมาบันทึกเสียงเขา แต่ตนไม่ได้ทำตาม เพราะไม่เชื่อว่าเขาจะตายจริง ๆ ตนได้ฟังหลาย ๆ เรื่อง แต่เขียนเพียงบางตอนที่บุตรชายได้เล่าเมื่อวันที่ 23-25 มิถุนายน พ.ศ.2517 เป็นเวลา 37 ปีมาแล้ว เรื่องสำคัญ ๆ ที่เขาเล่าคือ เรื่องอดีตชาติของเขา และเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยและโลกในอนาคต

ในเรื่องอดีตชาติของเขา เขาบอกว่า หนูระลึกชาติได้จริง ๆ เป็นปู่ของปู่ทวด เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตาเป็นทิพย์ หูเป็นทิพย์ หมดทั้งตัวเป็นไพฑูรณ์ เมื่อชาติก่อนโน้นหนูเคยเกิดเป็นพระชื่อ "ชิตะ" ตอนพระพุทธเจ้ายังมีชีวิตได้บอกว่าหนูจะได้เป็น "พระศรีอาริยเมตไตรย" ไม่ต้องมีตำรา ไม่ต้องมีคัมภีร์ก็เทศน์ได้

และก่อนจะเล่าถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ปลาบู่ถามว่า "เขื่อนที่ จ.ตาก เจอแผ่นดินไหวพังมั้ย?" ตอนนั้นตนก็ทำงานกับพวกฝรั่ง รู้ว่ามันแข็งแรงมากขนาดไหนก็บอกไปว่า ไม่จมหรอก แต่ปลาบู่บอกว่า "หนูมองเห็นความเสียหาย มีคนตายมากมาย อำเภอสามเงา ตาก นครสวรรค์ อโยธยา ปทุมธานี นนทบุรี โรงพยาบาลศิริราช ท่าเรือคลองเตย เครื่องบินโดยสารไอพ่นจมน้ำด้วย"

ทั้งนี้ ปลาบู่ต้องการให้ตนเป็น "สื่อ" มาบอกให้มีการเตรียมการป้องกันเขื่อนที่จะพังจากแรงแผ่นดินไหว ก่อนจะแก้ไขไม่ได้ โดยการเอาเหล็กรางรถไฟไปหุ้มให้แข็งแรงเป็นเขื่อนเหล็ก (นำรางรถไฟที่ไม่ใช้แล้ว เพราะสับเปลี่ยนเป็นรางใหม่ ซึ่งปัจจุบันวางกอง ๆ ไว้มากมายตามสถานีรถไฟ) นำไปเสริมตัวเขื่อนภูมิพลที่จังหวัดตาก และเขื่อนเจ้าพระยา ที่จังหวัดชัยนาท เพื่อให้มีความแข็งแรง เพียงพอที่จะรับแรงแผ่นดินไหว เพราะการเตรียมการป้องกันไว้ก่อน เมื่อเกิดปัญหาจะได้ผ่อนหนักให้เป็นเบา

และเขื่อนที่สร้างเสร็จแล้วยังไม่สมบูรณ์ เพราะไม่ได้วางท่อใหญ่ ๆ เพื่อระบายน้ำจากตัวเขื่อนลงทะเล เพราะถ้าระดับน้ำในเขื่อนเต็มขึ้นมา ก็จะมีการปล่อยน้ำออกจากตัวเขื่อน น้ำก็จะท่วมบ้านเรือนที่อยู่ใต้ตัวเขื่อน แต่ถ้ามีการวางท่อใหญ่ ๆ จากตัวเขื่อนลงสู่ทะเลเลย น้ำก็จะระบายลงท่อไปสู่ทะเล ไม่ท่วมบ้านเรือนและแผ่นดินที่อยู่ข้างบน น้ำเมื่ออยู่ในท่อจะสามารถควบคุมได้ และจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ในระยะยาว และเรื่องการขุดคลองลัดคอคอดลูกน้ำเต้าเพื่อระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ ไหลเร็วขึ้น (ปัจจุบันเป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว)

หนูอยากให้รัฐบาลทำเขื่อนใต้น้ำ ดักทรายเป็นระยะเพื่อให้แม่น้ำเจ้าพระยาตื้นขึ้นเหมือนเดิม เพราะเมื่อขุดแม่น้ำเจ้าพระยาลึก ๆ ก้นแม่น้ำก็จะมีแต่ตมเลนน้ำหนักของสิ่งก่อสร้างริมแม่น้ำจะกดตมเลนในแม่น้ำ ให้ปูดขึ้นมา ทำให้เกิดการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้างริมแม่น้ำ และเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ตึกรามบ้านช่อง สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ จะพัง อีกทั้ง น้ำในตัวเขื่อนที่พังยังไหลมาท่วมซ้ำเติม ทุกข์ยาก ลำบากมาก ๆ ตนจึงขอวิงวอนรัฐบาลและผู้ที่รับผิดชอบช่วยพิจารณาดังกล่าวเหล่านี้ด้วย

และปลาบู่ถามอีกว่า อีก 27 ปี พ.ศ.อะไร ? (2544) จะมีเครื่องบินชนตึก, อีก 30 ปี พ.ศ.อะไร ? (2547) จะเกิดคลื่นยักษ์คนจะตายกันมาก, อีก 35 ปี พ.ศ.อะไร ? (2552) จะเกิดแผ่นดินไหวในต่างประเทศ, อีก 38 ปี (2555) จะเกิดอาเพศรุนแรง แผ่นดินไหวรุนแรงเกือบทั่วโลก จะโดนทั้งไทย พม่า ฯลฯ กรุงเทพฯ จมดินจมน้ำ เขื่อนที่จังหวัดตากก็พัง "ในเวลายามสองในคืนปีใหม่ คนไทยฉลองกันสนุกสนาน เกิดแผ่นดินไหวมีคนตายมากมาย" (ยามสอง คือประมาณเวลา 22.00 –24.00 น.) และอีก 40 ปี จะเกิดสงครามนิวเคลียร์!!!

นอกจากนี้ ปลาบู่ยังได้ขอร้องตนว่า ขอให้พ่อยกที่ดินที่สวนศรีมหาโพธิ์ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ให้หนูนะ และขอให้พ่อปลูกต้นโพธิ์ไว้ 200 ต้น หากหนูตายไปแล้วพ่อจะรู้เอง ให้จำปานของหนูไว้ให้ดี หนูจะกลับมาเกิดอีกครั้ง ตัวโตเท่านี้จะบวชเณร ออกธุดงค์มาช่วยพ่อสร้างวัด "สุทัศน์เทพไพฑูรย์" (สวนศรีมหาโพธิ์) พร้อมกับแม่ใหม่ จะมาทำปาฏิหาริย์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา (ซึ่งต่อไปประเทศไทยจะเป็นตัวอย่างแก่ประเทศอื่น ๆ ต่างประเทศจะมาพึ่งพาประเทศไทย และพระพุทธศาสนาจะเป็นอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่ประเทศอื่น ๆ จะเสียหายเพราะภัยพิบัติและการสู้รบจากสงคราม)

โดยที่สวนศรีมหาโพธิ์จะเป็นสถานปฏิบัติธรรมของผู้หญิง และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและคนชรา (ในยุคที่เกิดความทุกข์ยากเพราะภัยพิบัติ) บนเขาลับแล (โครงการจัดตั้งฯ วัดป่าร่มโพธิ์ศรีฯ) จะเป็นวัดที่อยู่ของพระภิกษุและสามเณร จะมีพระองค์หนึ่งมีบุญบารมีมาก จะมาช่วยพ่อสร้างวัด จะมีคนมาถวายให้สร้างโน่นสร้างนี่จนสร้างไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งในปัจจุบันตนได้สร้างรอลูกชายตามที่สัญญาไว้ว่าจะมาหาทั้งสองที่ และได้เฝ้ารอคอยการกลับมาของบุตรชายในชาติใหม่มาเป็นเวลา 37 ปีแล้ว

ตนได้ฟังหลาย ๆ เรื่อง แต่เขียนเพียงบางตอน ตามเรื่องที่ปลาบู่เล่าเป็นเวลา 37 ปีมาแล้ว ปัจจุบันนี้ตนอายุ 73 ปีแล้ว เป็นห่วงประเทศชาติ และเชื่อว่าต้องเป็นความจริงตามที่ปลาบู่เล่า เพราะที่ผ่านมาเกิดขึ้นมาหมดแล้ว เหลือแต่เรื่องที่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง...

ที่มา
http://fb.kapook.com/hilight-65424.html

บทความที่ได้รับความนิยม